วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สำคัญกว่าเลี้ยงปลาคือการเลี้ยงน้ำ



สำคัญกว่าเลี้ยงปลาคือการเลี้ยงน้ำ

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

สำหรับมือใหม่เมื่ออยากจะเลี้ยงปลาสิ่งแรกที่นึกถึงคือปลาที่จะเลี้ยง ว่าจะเลี้ยงปลาอะไรดีนะ แต่รู้หรือไม่การที่จะเลี้ยงปลาไม่ว่าจะเป็นในตู้ปลาหรือบ่อปลามันมีหลายปัจจัยอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องมากมาย อันที่จริงถ้าคิดจะเลี้ยงปลาควรให้ปลาเป็นเรื่องรองที่เห็นส่วนใหญ่ก็ซื้อตู้ปลามาพร้อมกับปลานั้นแหละกะว่าวันเดียวเสร็จเห็นปลาว่ายในตู้ได้อย่างเพลิดเพลิน แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่ผิด แต่แค่ไม่แนะนำ เพราะปลาอาจจะเจ็บป่วยได้จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


น้ำคือบ้านของปลา

เมื่อปลาอาศัยอยู่ในน้ำน้ำจึงเปรียบเสมือนบ้านของปลา ถ้าคุณภาพน้ำดีน้ำจะดูแลตัวปลาเอง แล้วปัจจัยอะไรที่ทำให้คุณภาพน้ำดี? "อ็อคซิเจน" อ็อคซิเจนในตู้ปลาหรือบ่อปลาจะแบ่งหน้าที่แยกย่อยออกมาดังนี้ 1.เพื่อให้ปลามีอากาศหายใจ 2.เพื่อให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่อยู่ในระบบกรองมีอากาศในการดำรงชีวิตเพื่อบำบัดของเสีย 3.ช่วยลดของเสีย(แบ่งเบาภาระในระบบกรองอีกที) แถมให้อีกข้อ 4.ช่วยสร้างความสวยงามให้กับตู้ปลาหรือบ่อปลา

บ่อปูนกลางแจ้ง


จุดกำเนิดแบคทีเรีย

จุลินทรีย์คือจุลชีพขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าซึ่งประกอบไปด้วยแบคทีเรียชนิดต่างๆทั้งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ซึ่งไม่ว่าจะในตู้ปลาหรือบ่อปลาก็จะมีแบคทีเรียทั้งสองชนิดอาศัยอยู่ การกำเนิดของแบคทีเรียต้องเริ่มจาการมีของเสียสะสม ตู้ปลาที่ซื้อมาใหม่ๆหรือบ่อปลาที่เพิ่งทำเสร็จจะยังไม่มีแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลาซึ่งอาจจะกินเวลาเป็นเดือนๆกว่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์จะเกิดขึ้นมา แต่สมัยนี้มีแบคทีเรียสำเร็จรูปวางจำหน่ายหาซื้อได้ทั่วไปมีทั้งแบบชนิดน้ำ,ชนิดผงและชนิดก้อน

ระบบกรองชีวภาพ

ระบบกรองภายในตู้ปลาหรือบ่อปลาจะมีระบบกรองด้วยกันสององค์ประกอบ ได้แก่

ระบบกรองกายภาพ คือในส่วนที่ดักตะกอนขี้ปลาและสิ่งสกปรกต่างๆที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในระบบกรองส่วนนี้จะมีแบคทีเรียชนิดที่ไม่มีประโยชน์อาศัยอยู่และไม่จำเป็นต้องใช้อ็อคซิเจนในการดำรงชีวิต

ระบบกรองชีวภาพ มีหน้าที่กำจัดของเสียที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่นแอมโมเนีย,ไนไตรและไนเตรท ซึ่งแบคทีเรียจะทำหน้าที่เก็บกวาดสิ่งเหล่านี้ และต้องใส่อ็อคซิเจนในระบบกรองส่วนนี้เพื่อการดำรงชีวิตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์

หินภูเขาไฟคีรีก้าสำหรับกรองชีวภาพ


เอาล่ะเมื่อรู้จักองค์ประกอบต่างๆแล้วก็มาเริ่มกันเลย

1.ซื้อตู้ปลามาแล้วล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ถ้าเป็นบ่อปลาที่เพิ่งทำเสร็จแช่น้ำกำจัดความเค็มของปูนไปแล้ว ก็ล้างให้สะอาดอีกรอบและเติมน้ำให้เรียบร้อย

2.ลงวัสดุกรองทั้งแบบกายภาพและชีวภาพ ติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำและระบบอ็อคซิเจนให้เรียบร้อย

3.เติมแบคทีเรียสำเร็จรูปลงในระบบกรองชีวภาพ เปิดระบบทั้งหมดเพื่อรันหมุนเวียนน้ำ อย่าลืมใส่อ็อคซิเจนในระบบกรองชีวภาพ

4.อาหารของแบคทีเรีย ง่ายๆใช้อาหารปลาเพียงเล็กน้อยใส่ลงไปในตู้หรือบ่อปลาได้เลย


เลี้ยงน้ำไปก่อนใจเย็นๆอย่าเพิ่งเลี้ยงปลา

ปล่อยให้ระบบหมุนเวียนไปก่อน10วันก็ได้ถ้าไม่รีบเดือนนึงก็ยิ่งดี เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งอ็อคซิเจนและแบคทีเรียที่มีประโยชน์ทีนี้จะเลี้ยงปลาชนิดไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าปลาจะป่วยหรือไม่สบายตัวหรือระบบกรองล่มไม่เป็นท่า


ถ้าน้ำดีน้ำจะดูแลตัวปลาเอง เพราะน้ำคือบ้านของปลา


KKB Class Room

-----

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เอาตัว(ปลาทอง/ปลาคาร์พ)ให้รอดในฤดูหนาว



เอาตัว(ปลาทอง/ปลาคาร์พ)ให้รอดในฤดูหนาว

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

วันนี้จะมาเล่าถึงการเลี้ยงปลาในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าประเทศไทยบ้านเราจะไม่ได้หนาวเย็นระดับติดลบหรือมีหิมะ แต่แน่นอนเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงนานาชนิดก็ต้องมีการปรับตัวกันพอสมควร เคยอยู่ร้อนๆมาเกือบทั้งปีอยู่ดีๆอุณหภูมิก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะปลาซึ่งเป็นสัตว์เลือดเย็นซึ่งอุณหภูมิในน้ำจะเท่ากับในตัวปลา ในน้ำเย็นขนาดไหนในตัวปลาก็เย็นเท่านั้น(เวลาวัดอุณหภูมิต้องวัดในน้ำนะครับ) ซึ่งจะไม่เหมือนกับสัตว์เลือดอุ่นที่จะรักษาอุณหภูมิภายในให้อบอุ่นตลอดเวลา


เมื่ออากาศเย็นลงเรื่อยๆมีผลอย่างไรกับปลา?

ระบบเมทาบอลึซึมหรือระบบเผาผลาญจะต่ำลง โดยเฉพาะปลาคาร์พและปลาทองซึ่งปลาเหล่านี้จะไม่มีกระเพาะที่คอยช่วยย่อยอาหารแต่จะอาศัยการดูดซึมสารอาหารผ่านลำไส้ เมื่ออุณหภูมิลดลงสิ่งแรกที่ควรทำคือลดจำนวนอาหารและมื้ออาหารปลาลง เมื่อการเผาผลาญต่ำลงการให้อาหารในปริมาณมากจะทำให้การย่อยและดูดซึมสารอาหารทำได้ไม่ดีซึ่งจะส่งผลให้ปลาท้องอืดตามมาได้ นอกจากอากาศจะหนาวเย็นจัดจนอุณหภูมิน้ำอยู่ที่5-8องศาปลาจะหยุดกินอาหารไปเองโดยอัตโนมัติหรือที่เรียกติดปากกันว่า "สภาวะปลาจำศีล"


ก่อนอื่นย้ำอีกครั้งว่า เลี้ยงปลาต้องวัดอุณหภูมิในน้ำนะ ถ้าอุณหภูมิภายนอกที่เราอยู่ๆกันคือ25องศาในน้ำที่ปลาอาศัยอยู่จะเย็นกว่านั้นอาจจะอยู่ที่ราวๆ22-23องศา แต่ถ้าบ่อปลามีความลึก(เน้นลึกกว้างไม่มีผลเท่าไหร่)อุณหภูมิจะมีการเปลี่ยนแปลงได้น้อยและช้ากว่า ถ้าเลี้ยงในตู้ปลาจะยากกว่าเพราะตู้ปลามีแต่ทรงแนวยาวหาทรงสูงๆอยากแต่ถ้าตู้ยิ่งใหญ่จุน้ำได้มากอุณหภูมิก็เปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่าตู้เล็ก แต่ตู้ปลาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถติดฮีตเตอร์ช่วยได้


แล้วทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าอุณหภูมิอยู่ที่เท่าไหร่ควรจะลดปริมาณอาหารลง

ตั้งต้นก่อนเลยว่าอุณหูมิที่ปลาอยู่แล้วสบายที่สุดคือ 25องศา เป็นช่วงที่ปลากินอาหารได้ดีสุดและเห็นผลชัดเจน กินเร่งโตก็โตดี กินเร่งสีสีก็แจ่ม แต่ถ้าอุณหภูมิลดลงมาอยู่ที่20องศา ในเขตภาคกลางและภาคใต้ไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้ ก็ลดลงมาให้เหลือซัก75%จากปกติ ในส่วนของภาคเหนือและภาคอีสานคาดว่าจะอยู่ราวๆ10-15องศา ควรจะลดลงให้เหลือประมาณ30-40%และถ้าจะให้ดีควรให้วันเว้นวัน ขยับมือแรกมาในช่วงที่แดดส่องลงบ่อหรือช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้น


ถ้าไม่ลดไม่อดได้มั๊ยกลัวปลาจะหิว

ตอบเลยว่าได้ แต่...ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นคือต้องติดอีตเตอร์ช่วย สำหรับตู้ปลาไม่เท่าไหร่ แต่บ่อปลานี่ซิ อย่างแพง การเพิ่มอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่25-28องศา ก็สามารถเลี้ยงปลาได้เหมือนฤดูกาลปกติ กินเต็มที่ขี้เต็มกรอง ขยันล้างกรองเปลี่ยนถ่ายน้ำด้วยล่ะ

<script async src="https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js?client=ca-pub-7105658720321961"

     crossorigin="anonymous"></script>

ลดก็ได้อดก็ดี

ที่จริงแล้วช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ลดความอ้วนของปลานะ คิดดูปลากินอาหารมาหนักมากเกือบทั้งปีทั้งเร่งสีและเร่งโต3-4เดือนสุดท้ายของปีลดไขมันส่วนเกินหน่อยก็ดีนะปลาจะได้มีสุขภาพดีและอายุยืนยาว แถมประหยัดค่าอาหารด้วย ปลาตัวไหนอ้วนลงพุงแทบจะว่ายน้ำไม่ไหวแล้วควรจะใช้ช่วงเวลานี้แหละเป็นช่วงฟื้นฟู อาจจะผอมลงนิดหน่อยสีจืดไปนิดแต่ในระยะยาวมันคุ้มมากจะทำให้ปลาอยู่กับเราได้นานจนจบอายุขัย


ปลาอดอาหารได้เป็นเดือนๆ

ให้สองเดือนก็ยังได้(เฉพาะปลาใหญ่) นี่คือสิ่งที่หลายคนกังวัลเวลาต้องลดอาหาร

เพราะกลัวปลาจะหิว ไม่ต้องห่วงอย่างที่บอกปลาอดอาหารได้เป็นเดือนๆ กลไกมันเป็นแบบนี้ เมื่อปลาได้รับอาหารน้อยลงปลาจะดึงไขมันในตัวที่เราสะสมให้มันจนอ้วนมาเป็นพลังงานทดแทนปลาก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติว่ายไปว่ายมา แต่ถ้าเป็นช่วงที่ควรอดคือช่วงที่อุณหภูมิต่ำกว่า10องศาไม่ว่าเราจะอดเองหรือปลาเข้าสู่สภาวะจำศีล ปลาจะอยู่นิ่งๆเลยไม่เคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น มีแต่แววตาที่ชำเลืองมองดูเจ้าของ


สภาวะจำศีลไม่ได้น่ากลัว 

เมื่ออุณหภูมิต่ำลงอย่างมาก สัญชาตญาณปลาจะเข้าสู่สภาวะจำศีลของมันเอง

ปลาจะอยู่นิ่งๆดึงไขมันสะสมมาเป็นพลังงานเพื่อให้มันมีชีวิตรอดไปถึงฤดูกาลใหม่

คุณภาพปลาอาจจะมีลดลงไปบ้าง แต่มันคือกลไกทางธรรมชาติที่เราต้องยอมรับ ถ้าไม่สบายใจก็ติดฮีตเตอร์


ประสบการณ์ตรงในฐานะเจ้าของฟาร์ม

ในฤดูกาลปกติตัวผมเองจะให้อาหารปลา6วันต่อสัปดาห์ จะมี1วันที่หยุดอาหารเพื่อให้จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบกรองได้มีเวลาเก็บกวาดของเสียจำพวกแอมโมเนีย,ไนไตรและไนเตรท ส่วนฤดูหนาวที่อุณหภูมิ20องศาหรือต่ำกว่าผมให้แค่40%ต่อวัน ถ้าเป็นปลาใหญ่ให้แค่วันเว้นวัน เพราะผมตั้งใจใช้ช่วงเวลานี้ของทุกปีเป็นช่วงลดความอ้วนปลา


KKB Class Room


-----

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom


วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่)

  วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่) สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับเมื่อเลี้ยงปลาคาร์พมาได้ซัก2-3ปีความท้าทายใหม่ก็มักจะเกิดขึ้นสำหรับผู้เลี้ยงก็คืออย...