วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่)

 


วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่)

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับเมื่อเลี้ยงปลาคาร์พมาได้ซัก2-3ปีความท้าทายใหม่ก็มักจะเกิดขึ้นสำหรับผู้เลี้ยงก็คืออยากจับปลาคาร์พที่เลี้ยงไว้มาเพาะพันธุ์เพื่ออยากเห็นลูกๆของมัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้วการจับปลาคาร์พมาเพาะพันธุ์ควรจะทำทุกปีแม้ว่าไม่ต้องการลูกมันก็ตาม เพื่อป้องกันสภาวะปลาตัวเมียจุกไข่ตายนั่นเอง หลายๆคนที่เลี้ยงปลาคาร์พคงเคยเจอเรื่องนี้แน่นอน


ปลาคาร์พผสมพันธุ์กันเองได้มั๊ย?เมื่อปลาคาร์พที่เลี้ยงไว้มีอายุ2ปีขึ้นไปก็จะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์โดยส่วนใหญ่ปลาตัวผู้จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้ไวกว่าตัวเมียอาจจะแค่ปีเดียวก็มีน้ำเชื้อแล้ว ถ้าเป็นปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อดินธรรมชาติไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเรื่องที่ปลาตัวเมียจะมีอาการจุไข่เพราะถ้าระบบนิเวศดีปลามันจะผสมพันธุ์กันเองได้อยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่กรณีเลี้ยงในบ่อปูนถ้าปลามีจำนวนหนาแน่นโอกาสที่ปลาจะไล่ผสมพันธุ์ก็มีน้อยมากเพราะไม่มีพื้นที่มากพอให้ปลาที่พร้อมจับคู่แยกออกไป


ลักษณะเพศปลาคาร์พ

ปลาคาร์พจะดูเพศได้ค่อนข้างชัวร์เมื่อปลามีอายุ2ปีขึ้นไป ขนาด50เซนติเมตรหรือถ้าเป็นปลาตัวผู้ที่อายุ1ปี ขนาด30-35เซนติเมตร บริเวณครีบว่ายลำตัวและแก้มปลาจะสากนิ้วมือเวลาเราจับลูบเบาๆ ส่วนปลาตัวเมียช่วงท้องจะอวบอ้วนมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูผสมพันธุ์ อันที่จริงปลาที่เลี้ยงในประเทศไทยบ้านเราก็ผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้วช่วงไหนเห็นปลาอ้วนเป็นพิเศษและเมื่อลองจับคลำใต้ท้องเบาๆแล้วรู้สึกว่าท้องนิ่มตัวนั้นก็คือตัวเมียที่มีไข่แล้วนั่นเอง


ปลาตัวผู้ช่องเพศจะมีลักษณะเป็นหลุมเข้าไปด้านใน




ปลาตัวเมียช่องเพศจะมีลักษณะบวมนูนมีสีชมพู


จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นมั๊ย?

ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดเพราะต้องการได้ลูกปลาหรือให้ปลาไล่ไข่ทิ้งไปเฉยๆจะใช้วิธีการเดียวกันจะมีแค่ข้อแตกต่างตรงที่ถ้าอยากได้ลูกปลาจะต้องมีการฉีดออร์โมนกระตุ้นเพื่อให้ได้มีโอกาสติดลูกปลามากขึ้นหรือจะไม่ฉีดฮอร์โมนก็ได้แต่เปอร์เซนต์ที่จะได้ลูกปลามีน้อยลง แต่ถ้าแค่จะให้ปลาไล่ไข่ทิ้งเฉยๆไม่จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนเว้นแต่ปลาจะไม่ยอมไข่หรือปลาตัวผู้ไม่ยอมว่ายไล่กระตุ้นให้ตัวเมียยอมปล่อยไข่ออกมาจึงสามารถฉีดฮอร์โมนกระตุ้นได้เช่นกัน


ฮอร์โมนกระตุ้นจะฉีดเข้าตรงบริเวณโคนครีบหลังของปลา



วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ

โดยปกติวิธีเพาะพันธุ์เลียนแบบธรรมชาติจะใช้ตัวเมีย1ตัวต่อตัวผู้2ตัว นำปลาที่แยกไว้ลงเพาะพันธุ์ในอ่างไฟเบอร์หรือบ่อผ้าใบแต่บ่อผ้าใบดีสุดเพราะเวลาปลาไล่กันจะค่อนข้างรุนแรงบางครั้งฟาดกับผนังอ่างไฟเบอร์จะทำให้ปลาช้ำหรือถ้าเป็นบ่อปูนเกล็ดจะหลุดเป็นแผลได้ ปลาจะเริ่มไล่ผสมพันธุ์กันในช่วงเที่ยงคืนเป็นต้นไปจนถึง6-7โมงเช้า แนะนำให้ปล่อยปลาลงช่วง6โมงเย็น โดยใช้เชือกฟางฉีดเป็นฝอยๆแล้วมัดรวมกันทำไว้หลายๆอัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ปลาวางไข่และให้ไข่ปลาได้ยึดเกาะ



รังเทียมที่ทำจากเชือกฟาง


ปลาคาร์พใช้เวลาผสมพันธุ์กี่ชั่วโมง?

โดยปกติแล้วยิ่งขนาดปลาตัวเมียตัวใหญ่เท่าไหร่ยิ่งใช้เวลานานขึ้น เฉลี่ยแล้วอยู่ราวๆ2ชั่วโมงขึ้นไป เมื่อปลาไข่จนหมดท้องแล้วมันจะหยุดไล่กันไปเอง หลังจากนั้นก็แยกปลากลับไปลงบ่อเลี้ยงเหมือนเดิม ไข่ปลาคาร์พจะลักษณะเป็นเม็ดกลมๆเล็กๆมีสีเหลืองใสหรือสีน้ำผึ้งเกาะติดกับพื้นหรือผนังบ่อและรังเทียมที่ทำไว้และลูกปลาจะฟักออกจากไข่เป็นตัวเล็กๆภายใน3วัน ปลาคาร์พตัวเมียจะให้ไข่ได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนหรือหลายแสนขึ้นอยู่กับขนาดปลาตัวเมีย


ไข่ปลาที่เกาะติดกับรังเทียม

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับวิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พสำหรับมือใหม่คงไม่ยากจนเกินไป แต่ถ้าหากกล่าวถึงการเพาะพันธุ์ปลาคาร์พในเชิงธุรกิจนั้นยังมีหลายๆปัจจัยที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ได้ลูกปลาคาร์พคุณภาพสูง ถ้าหากสนใจเพิ่มเติมแอดมินมีคอร์สสอนเพาะพันธุ์ปลาคาร์พออนไลน์และสอนนอกสถานที่รวมทั้งจำหน่ายฮอร์โมนเพาะพันธุ์ปลาคุณภาพสูง

สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

🎯Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom?locale=th_TH

🎯Line : https://lin.ee/b5xNEhP


KKB Class Room

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

10เรื่องเกี่ยวกับปลาทองที่(คุณ)เข้าใจผิด



10เรื่องเกี่ยวกับปลาทองที่(คุณ)เข้าใจผิด

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

มาดูกันว่าทั้ง10เรื่องมีอะไรกันบ้าง


1.ปลาทองเลี้ยงง่าย

หลายคนคิดแบบนั้นเพราะถ้าคิดจะเลี้ยงปลาสวยงามซักชนิดปลาชนิดแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นปลาทอง ก็เพราะว่าปลาทองนั้นมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนคือวุ่นที่หัวที่ใครเห็นก็หลงรักในความสวย ปลาทองจึงเป็นปลาสวยงามอันหนึ่งตลอดกาล ก็เพราะงี้แหละใครเห็นก็ซื้อเลยทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเลี้ยง่ายเพราะใครๆก็เลี้ยง อีกอย่างราคาเริ่มต้นก็ไม่ได้แพงเด็กๆเก็บค่าขนมมาซื้อก็ยังได้


2.ปลาทองเลี้ยงยากกว่าที่(คุณ)คิด

อันที่จริงคำว่าเลี้ยงยาก หมายถึง เลี้ยงให้โตไวสีสันสวยงามแข็งแรงไม่ป่วยบ่อยๆ

และมีอายุยืนยาว ซึ่งการที่จะเลี้ยงให้ได้ถึงจุดสูงสุดที่ปลาขับศักยภาพออกมาได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เช่นสายพันธุ์ของตัวปลาเอง,ขนาดตู้หรือบ่อที่ใช้เลี้ยง,คุณภาพน้ำ,อาหารปลาและประสบการณ์ของผู้เลี้ยง


3.ปลาทองความจำสั้น

เรื่องนี้เกิดจากการที่ปลาทองกินอาหารไปแล้วแต่ก็ยังจะขออาหารกินอีก คือมันขอกินได้ทั้งวัน ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังว่ายน้ำขออาหารทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านหน้าตู้ปลาหรือบ่อปลา ก็เลยคิดว่าความจำมันสั้นจำไม่ได้เหรอว่าตัวเองกินไปแล้ว อันที่จริงเป็นแบบนี้ ปลาทองไม่มีกระเพาะอาหารแต่จะใช้สำไส้ในการดูดซึมสารอาหารส่วนที่เป็นกากหรือปลาดูดซึมไม่หมดปลาก็จะขับถ่ายออกมา อีกอย่างถ้าอุณหภูมิน้ำเหมาะสมระบบเมทาบอลิซึ่มทำไงได้ดีปลาดูดซึมสารอาหารได้ไว มันจึงขออาหารกินได้ทั้งวัน


4.ปลาทองเลี้ยงรวมกับปลาอะไรก็ได้

ถึงแม้ปลาทองจะไม่มีพิษมีภัยแต่ก็ไม่ควรเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นนอกจากปลาทองด้วยกันเอง เพราะว่าปลาทองเป็นปลาที่ขับเมือกบ่อย ถ้าเราเลี้ยงรวมกับปลาหางนกยูงหรือปลาสอดปลาพวกนี้จะชอบไล่ตอดปลาทองเล่น โดยเฉพาะปลาซัคเกอร์หรือที่เรียกติดปากว่า"ปลาเทศบาล" ปลาชนิดนี้จะเกาะติดดูดกินเมือกปลาทองที่ตัวจนปลาเป็นแผลส่งผลให้ปลาเครียดติดเชื้อเป็นแผล,ป่วยและตายในที่สุด แต่ปัจจุบันนี้จะมีปลาทองทามะซาบะที่เลี้ยงรวมกับปลาคาร์พได้เพราะถูกพัฒนาสายพันธุ์มาแล้ว

ปลาทองทามะซาบะ



5.ปลาทองอายุสั้น

จริงๆแล้วปลาทองมีอายุ5ปีขึ้นไปบางตัวก็จบที่10ปีแต่ที่หลายคนมองว่ามันอายุสั้นก็เพราะจะมีซักกี่คนที่เลี้ยงปลาทองได้จนถึงอายุ5ปี ย้อนกลับไปอ่านข้อ2อีกรอบไม่ใช่เรื่องง่ายเลยและก็ไม่ใช่ทุกตัวที่จะเป็นได้ถึงแม้จะเป็นนักเลี้ยงที่มีประสบการณ์สูงก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลี้ยงปลาทองได้จนหมดอายุขัยไปเองได้ทุกตัว สถิติของแอดมินเองเป็นปลาทองออรันดายักษ์สีดำจบที่7ปี

ออรันดายักษ์อายุ7ปี



6.เลี้ยงปลาทองในโหล

คงเคยเห็นในหนัง,ละครและมิวสิควิดีโอกันใช่มั๊ยล่ะ พูดตรงๆแบบนี้เรียกว่าจับปลาทองขังคุกเลยนะ มันอาจจะดูสวยงามก็จริงแต่ในความเป็นจริงปลาโคตรทรมานเลย การที่เห็นมันว่ายไปว่ายไม่ใช่ว่ามันชอบแต่มันต้องการจะออกไปจากที่นี่

ปลาที่ว่ายอย่างมีความสุขกับมีอาการว่ายแบบกระวนกระวายจะต่างกันเยอะถ้ามีประสบการณ์เลี้ยงปลามาอย่างยาวนานจะดูรู้เลย ถ้างบประมาณยังมีไม่พอซื้อตู้ปลาเก็บเงินเพิ่มอีกนิดรออีกหน่อยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า


7.ปลาทองเป็นปลากินพืช

ลูกน้ำ หนอนแดง ไรแดง ไรทะเล ไส้เดือนน้ำ แบบเป็นๆนะแอดมินให้ทีไรมันกินไม่เคยเหลือ จริงๆมันก็กินทั้งหมดนั่นแหละไม่ว่าจะเป็นพืชน้ำหรือสาหร่ายเซลล์เดียว หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ การที่จะเลี้ยงปลาให้ขับศักยภาพสูงสุดออกมาได้นั้น ไม่ใช่ว่าจะกินแต่อาหารสำเร็จรูปอย่างเดียว ต้องมีอาหารเสริมอื่นๆด้วย นี่ยังไม่รวมไข่ตุ๋นนะเนี่ย


8.ใส่ยาทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำ

มือใหม่เป็นกันทุกคนอ่านโพสต์นี้แล้วก็เลิกทำได้เลยนะ ต้องบอกยังงี้จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้นยารักษาโรคปลาจะใส่เฉพาะเมื่อปลามีอาการป่วยเท่านั้น การที่เราใส่ลงไปทุกวันทุกอาทิตย์หรือทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเพราะคิดว่าเป็นการดักไว้ก่อนเพื่อที่มันจะได้ไม่ป่วย การทำแบบนี้จะทำให้ปลาดื้อยาและได้รับสารเคมีโดยไม่จำเป็นมันจะสะสมในตัวปลาไปเรื่อยๆเวลาที่ปลาตายโดยไม่มีสาเหตุก็อาจจะมาจากสาเหตุก็ได้ และพอปลาดื้อยาแล้วทีนี้พอปลาป่วยขึ้นมาจริงๆยาตัวนั้นก็ใช้ไม่ได้ผล


9.เลี้ยงปลาทองทั้งทีตู้ต้องอลังการ

จัดหนักจัดเต็มทั้งหินทั้งทรายต้นไม้แท้ต้นไม้เทียมขอนไม้กิ่งไม้ยัดมันเข้าไป

สามารถทำได้ แต่ต้องขยันทำความสะอาดนะขี้ปลาและสิ่งสกปรกต่างๆมันก็จะไปรวมกันอยู่ใต้พื้นหินพื้นทรายเรียกได้ว่าเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและปรสิตชั้นดี อีกอย่างวัสดุของตกแต่งต้องดูให้ดีว่าไม่มีคมไม่มีมุมแหลมเพราะเวลาปลาว่ายไปเฉี่ยวชนจะเกิดบาดแผลได้ ถ้าจะใส่ต้นไม้น้ำแท้ด่วยล่ะก็คิดดูดีๆ มันตอดกินจนเละฟุ้งเต็มตู้ไปหมดจนเหลือแต่ก้าน ถ้าคิดว่าไม่มีเวลาดูแลมากนักเลี้ยงตู้โล่งๆระบบกรองดีๆแค่นี้ก็พอ

เลี้ยงปลาทองแบบตู้โล่ง



10.ปั๊มต้องแรงอ็อคซิเจนต้องเดือด

ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้แค่พอให้น้ำหมุนเวียนเข้าระบบกรองไม่ใช้ไม่เร็วจนเกินไป

ปลาทองไม่ใช่ปลาที่ชอบว่ายทวนน้ำ(ยกเว้นปลาทองทามาะซาบะ)ยิ่งน้ำพุ่งแรงมากเกินไปโดยเฉพาะการเลี้ยงในตู้จะทำให้ครีบหลังและครีบหางปลาพับหรือหักได้ แล้วปลามันจะเหนื่อยกับการใช้ชีวิตมากจนเกินไปต่อให้กินดีกินเยอะขนาดไหนก็ตรงมาศูนย์เสียพลังงานตรงส่วนนี้เกินความจำเป็น เวลาให้อาหารลงไปปลาก็ต้องว่ายต้านกับน้ำเพื่อขึ้นมากินอาหารเห็นแล้วเหนื่อยแทนกับการกินจริงๆ


KKB Class Room


-----

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สำคัญกว่าเลี้ยงปลาคือการเลี้ยงน้ำ



สำคัญกว่าเลี้ยงปลาคือการเลี้ยงน้ำ

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

สำหรับมือใหม่เมื่ออยากจะเลี้ยงปลาสิ่งแรกที่นึกถึงคือปลาที่จะเลี้ยง ว่าจะเลี้ยงปลาอะไรดีนะ แต่รู้หรือไม่การที่จะเลี้ยงปลาไม่ว่าจะเป็นในตู้ปลาหรือบ่อปลามันมีหลายปัจจัยอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องมากมาย อันที่จริงถ้าคิดจะเลี้ยงปลาควรให้ปลาเป็นเรื่องรองที่เห็นส่วนใหญ่ก็ซื้อตู้ปลามาพร้อมกับปลานั้นแหละกะว่าวันเดียวเสร็จเห็นปลาว่ายในตู้ได้อย่างเพลิดเพลิน แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่ผิด แต่แค่ไม่แนะนำ เพราะปลาอาจจะเจ็บป่วยได้จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


น้ำคือบ้านของปลา

เมื่อปลาอาศัยอยู่ในน้ำน้ำจึงเปรียบเสมือนบ้านของปลา ถ้าคุณภาพน้ำดีน้ำจะดูแลตัวปลาเอง แล้วปัจจัยอะไรที่ทำให้คุณภาพน้ำดี? "อ็อคซิเจน" อ็อคซิเจนในตู้ปลาหรือบ่อปลาจะแบ่งหน้าที่แยกย่อยออกมาดังนี้ 1.เพื่อให้ปลามีอากาศหายใจ 2.เพื่อให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่อยู่ในระบบกรองมีอากาศในการดำรงชีวิตเพื่อบำบัดของเสีย 3.ช่วยลดของเสีย(แบ่งเบาภาระในระบบกรองอีกที) แถมให้อีกข้อ 4.ช่วยสร้างความสวยงามให้กับตู้ปลาหรือบ่อปลา

บ่อปูนกลางแจ้ง


จุดกำเนิดแบคทีเรีย

จุลินทรีย์คือจุลชีพขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าซึ่งประกอบไปด้วยแบคทีเรียชนิดต่างๆทั้งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ซึ่งไม่ว่าจะในตู้ปลาหรือบ่อปลาก็จะมีแบคทีเรียทั้งสองชนิดอาศัยอยู่ การกำเนิดของแบคทีเรียต้องเริ่มจาการมีของเสียสะสม ตู้ปลาที่ซื้อมาใหม่ๆหรือบ่อปลาที่เพิ่งทำเสร็จจะยังไม่มีแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลาซึ่งอาจจะกินเวลาเป็นเดือนๆกว่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์จะเกิดขึ้นมา แต่สมัยนี้มีแบคทีเรียสำเร็จรูปวางจำหน่ายหาซื้อได้ทั่วไปมีทั้งแบบชนิดน้ำ,ชนิดผงและชนิดก้อน

ระบบกรองชีวภาพ

ระบบกรองภายในตู้ปลาหรือบ่อปลาจะมีระบบกรองด้วยกันสององค์ประกอบ ได้แก่

ระบบกรองกายภาพ คือในส่วนที่ดักตะกอนขี้ปลาและสิ่งสกปรกต่างๆที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในระบบกรองส่วนนี้จะมีแบคทีเรียชนิดที่ไม่มีประโยชน์อาศัยอยู่และไม่จำเป็นต้องใช้อ็อคซิเจนในการดำรงชีวิต

ระบบกรองชีวภาพ มีหน้าที่กำจัดของเสียที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่นแอมโมเนีย,ไนไตรและไนเตรท ซึ่งแบคทีเรียจะทำหน้าที่เก็บกวาดสิ่งเหล่านี้ และต้องใส่อ็อคซิเจนในระบบกรองส่วนนี้เพื่อการดำรงชีวิตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์

หินภูเขาไฟคีรีก้าสำหรับกรองชีวภาพ


เอาล่ะเมื่อรู้จักองค์ประกอบต่างๆแล้วก็มาเริ่มกันเลย

1.ซื้อตู้ปลามาแล้วล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ถ้าเป็นบ่อปลาที่เพิ่งทำเสร็จแช่น้ำกำจัดความเค็มของปูนไปแล้ว ก็ล้างให้สะอาดอีกรอบและเติมน้ำให้เรียบร้อย

2.ลงวัสดุกรองทั้งแบบกายภาพและชีวภาพ ติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำและระบบอ็อคซิเจนให้เรียบร้อย

3.เติมแบคทีเรียสำเร็จรูปลงในระบบกรองชีวภาพ เปิดระบบทั้งหมดเพื่อรันหมุนเวียนน้ำ อย่าลืมใส่อ็อคซิเจนในระบบกรองชีวภาพ

4.อาหารของแบคทีเรีย ง่ายๆใช้อาหารปลาเพียงเล็กน้อยใส่ลงไปในตู้หรือบ่อปลาได้เลย


เลี้ยงน้ำไปก่อนใจเย็นๆอย่าเพิ่งเลี้ยงปลา

ปล่อยให้ระบบหมุนเวียนไปก่อน10วันก็ได้ถ้าไม่รีบเดือนนึงก็ยิ่งดี เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งอ็อคซิเจนและแบคทีเรียที่มีประโยชน์ทีนี้จะเลี้ยงปลาชนิดไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าปลาจะป่วยหรือไม่สบายตัวหรือระบบกรองล่มไม่เป็นท่า


ถ้าน้ำดีน้ำจะดูแลตัวปลาเอง เพราะน้ำคือบ้านของปลา


KKB Class Room

-----

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เอาตัว(ปลาทอง/ปลาคาร์พ)ให้รอดในฤดูหนาว



เอาตัว(ปลาทอง/ปลาคาร์พ)ให้รอดในฤดูหนาว

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

วันนี้จะมาเล่าถึงการเลี้ยงปลาในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าประเทศไทยบ้านเราจะไม่ได้หนาวเย็นระดับติดลบหรือมีหิมะ แต่แน่นอนเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงนานาชนิดก็ต้องมีการปรับตัวกันพอสมควร เคยอยู่ร้อนๆมาเกือบทั้งปีอยู่ดีๆอุณหภูมิก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะปลาซึ่งเป็นสัตว์เลือดเย็นซึ่งอุณหภูมิในน้ำจะเท่ากับในตัวปลา ในน้ำเย็นขนาดไหนในตัวปลาก็เย็นเท่านั้น(เวลาวัดอุณหภูมิต้องวัดในน้ำนะครับ) ซึ่งจะไม่เหมือนกับสัตว์เลือดอุ่นที่จะรักษาอุณหภูมิภายในให้อบอุ่นตลอดเวลา


เมื่ออากาศเย็นลงเรื่อยๆมีผลอย่างไรกับปลา?

ระบบเมทาบอลึซึมหรือระบบเผาผลาญจะต่ำลง โดยเฉพาะปลาคาร์พและปลาทองซึ่งปลาเหล่านี้จะไม่มีกระเพาะที่คอยช่วยย่อยอาหารแต่จะอาศัยการดูดซึมสารอาหารผ่านลำไส้ เมื่ออุณหภูมิลดลงสิ่งแรกที่ควรทำคือลดจำนวนอาหารและมื้ออาหารปลาลง เมื่อการเผาผลาญต่ำลงการให้อาหารในปริมาณมากจะทำให้การย่อยและดูดซึมสารอาหารทำได้ไม่ดีซึ่งจะส่งผลให้ปลาท้องอืดตามมาได้ นอกจากอากาศจะหนาวเย็นจัดจนอุณหภูมิน้ำอยู่ที่5-8องศาปลาจะหยุดกินอาหารไปเองโดยอัตโนมัติหรือที่เรียกติดปากกันว่า "สภาวะปลาจำศีล"


ก่อนอื่นย้ำอีกครั้งว่า เลี้ยงปลาต้องวัดอุณหภูมิในน้ำนะ ถ้าอุณหภูมิภายนอกที่เราอยู่ๆกันคือ25องศาในน้ำที่ปลาอาศัยอยู่จะเย็นกว่านั้นอาจจะอยู่ที่ราวๆ22-23องศา แต่ถ้าบ่อปลามีความลึก(เน้นลึกกว้างไม่มีผลเท่าไหร่)อุณหภูมิจะมีการเปลี่ยนแปลงได้น้อยและช้ากว่า ถ้าเลี้ยงในตู้ปลาจะยากกว่าเพราะตู้ปลามีแต่ทรงแนวยาวหาทรงสูงๆอยากแต่ถ้าตู้ยิ่งใหญ่จุน้ำได้มากอุณหภูมิก็เปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่าตู้เล็ก แต่ตู้ปลาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถติดฮีตเตอร์ช่วยได้


แล้วทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าอุณหภูมิอยู่ที่เท่าไหร่ควรจะลดปริมาณอาหารลง

ตั้งต้นก่อนเลยว่าอุณหูมิที่ปลาอยู่แล้วสบายที่สุดคือ 25องศา เป็นช่วงที่ปลากินอาหารได้ดีสุดและเห็นผลชัดเจน กินเร่งโตก็โตดี กินเร่งสีสีก็แจ่ม แต่ถ้าอุณหภูมิลดลงมาอยู่ที่20องศา ในเขตภาคกลางและภาคใต้ไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้ ก็ลดลงมาให้เหลือซัก75%จากปกติ ในส่วนของภาคเหนือและภาคอีสานคาดว่าจะอยู่ราวๆ10-15องศา ควรจะลดลงให้เหลือประมาณ30-40%และถ้าจะให้ดีควรให้วันเว้นวัน ขยับมือแรกมาในช่วงที่แดดส่องลงบ่อหรือช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้น


ถ้าไม่ลดไม่อดได้มั๊ยกลัวปลาจะหิว

ตอบเลยว่าได้ แต่...ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นคือต้องติดอีตเตอร์ช่วย สำหรับตู้ปลาไม่เท่าไหร่ แต่บ่อปลานี่ซิ อย่างแพง การเพิ่มอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่25-28องศา ก็สามารถเลี้ยงปลาได้เหมือนฤดูกาลปกติ กินเต็มที่ขี้เต็มกรอง ขยันล้างกรองเปลี่ยนถ่ายน้ำด้วยล่ะ

<script async src="https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js?client=ca-pub-7105658720321961"

     crossorigin="anonymous"></script>

ลดก็ได้อดก็ดี

ที่จริงแล้วช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ลดความอ้วนของปลานะ คิดดูปลากินอาหารมาหนักมากเกือบทั้งปีทั้งเร่งสีและเร่งโต3-4เดือนสุดท้ายของปีลดไขมันส่วนเกินหน่อยก็ดีนะปลาจะได้มีสุขภาพดีและอายุยืนยาว แถมประหยัดค่าอาหารด้วย ปลาตัวไหนอ้วนลงพุงแทบจะว่ายน้ำไม่ไหวแล้วควรจะใช้ช่วงเวลานี้แหละเป็นช่วงฟื้นฟู อาจจะผอมลงนิดหน่อยสีจืดไปนิดแต่ในระยะยาวมันคุ้มมากจะทำให้ปลาอยู่กับเราได้นานจนจบอายุขัย


ปลาอดอาหารได้เป็นเดือนๆ

ให้สองเดือนก็ยังได้(เฉพาะปลาใหญ่) นี่คือสิ่งที่หลายคนกังวัลเวลาต้องลดอาหาร

เพราะกลัวปลาจะหิว ไม่ต้องห่วงอย่างที่บอกปลาอดอาหารได้เป็นเดือนๆ กลไกมันเป็นแบบนี้ เมื่อปลาได้รับอาหารน้อยลงปลาจะดึงไขมันในตัวที่เราสะสมให้มันจนอ้วนมาเป็นพลังงานทดแทนปลาก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติว่ายไปว่ายมา แต่ถ้าเป็นช่วงที่ควรอดคือช่วงที่อุณหภูมิต่ำกว่า10องศาไม่ว่าเราจะอดเองหรือปลาเข้าสู่สภาวะจำศีล ปลาจะอยู่นิ่งๆเลยไม่เคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น มีแต่แววตาที่ชำเลืองมองดูเจ้าของ


สภาวะจำศีลไม่ได้น่ากลัว 

เมื่ออุณหภูมิต่ำลงอย่างมาก สัญชาตญาณปลาจะเข้าสู่สภาวะจำศีลของมันเอง

ปลาจะอยู่นิ่งๆดึงไขมันสะสมมาเป็นพลังงานเพื่อให้มันมีชีวิตรอดไปถึงฤดูกาลใหม่

คุณภาพปลาอาจจะมีลดลงไปบ้าง แต่มันคือกลไกทางธรรมชาติที่เราต้องยอมรับ ถ้าไม่สบายใจก็ติดฮีตเตอร์


ประสบการณ์ตรงในฐานะเจ้าของฟาร์ม

ในฤดูกาลปกติตัวผมเองจะให้อาหารปลา6วันต่อสัปดาห์ จะมี1วันที่หยุดอาหารเพื่อให้จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบกรองได้มีเวลาเก็บกวาดของเสียจำพวกแอมโมเนีย,ไนไตรและไนเตรท ส่วนฤดูหนาวที่อุณหภูมิ20องศาหรือต่ำกว่าผมให้แค่40%ต่อวัน ถ้าเป็นปลาใหญ่ให้แค่วันเว้นวัน เพราะผมตั้งใจใช้ช่วงเวลานี้ของทุกปีเป็นช่วงลดความอ้วนปลา


KKB Class Room


-----

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook : https://www.facebook.com/Youtube.KKB.ClassRoom


วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่)

  วิธีเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ(มือใหม่) สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับเมื่อเลี้ยงปลาคาร์พมาได้ซัก2-3ปีความท้าทายใหม่ก็มักจะเกิดขึ้นสำหรับผู้เลี้ยงก็คืออย...